ราษฎรบ้านโป่งดอยช้าง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่ชาวบ้านพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หันมาไพตองตึงสร้างรายได้ในช่วงระยะเวลา 2- 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนเมษายน ออกเก็บใบตองตึงในป่า มาไพขาย แผ่นละ 7 บาท โดยจะมัดรวมกันเป็นตั้ง สร้างรายได้ แถมลดปัญหาเชื้อเพลิงลุกไหม้ป่าอีกทาง
.
เช่นเดียวกับ นางมือ เลิศรัตนดารา หรือ ยายหอย อายุ 63 ปี (เสื้อขาว) เป็นผู้สูงอายุ อีกหนึ่งคนของบ้านโป่งดอยช้าง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ใช้เวลาว่างในแต่ละวันออกหาใบตองตึง มาไพขาย โดยจะออกจากบ้านประมาณ 06.00 น. ไปเก็บใบตองตึงในป่าใกล้บ้านรวบรวมใส่ก๋วยกลับบ้าน ซึ่งก่อนจะทำการไพต้องชุบน้ำไม่ให้ตองแห้งเกิน แล้วทำการนั่งไพตองในช่วงบ่าย ๆ คุณยายต้องเตรียมตอก และไม้ดุ้งก้านหรือก้านไม่ไผ่ที่จะพับตองตึงซ้อนกันมัดด้วยตอกเป็นแผ่น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ มากน้อยขึ้นอยู่กับความขยัน
.
นอกจากนี้ยังมี ยายศรี (เสื้อสีส้ม) และแม่บ้านหลาย ๆ คน ที่ใช้เวลาในช่วงนี้ออกเก็บใบตองตึงมาไพขาย ส่งผลทำให้มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวเป็นรายได้อีกทางหนึ่งในห้วงฤดูแล้ง นอกเหนือจากการออกไปรับจ้างรายวัน ซึ่งช่วงนี้ใบตองเริ่มแห้งและร่วงก็ต้องรีบออกมาเก็บสะสมไว้ ก่อนถูกไฟป่าเผาวอด การไพตองตึงจากภูมิปัญญาจึงสร้างรายได้ให้กับราษฎรได้ดีในระดับหนึ่ง ราษฎรบางรายมีรายได้ตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท จะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับความขยันในการออกไปหาเก็บใบตอง และปัจจัยที่สำคัญต่อการเก็บใบตองตึงแห้ง คือ ไฟป่า ปีนี้ทางราชการประกวดห้ามเผา ทำให้ชาวบ้านยังสามารถหาตองตึงได้ง่ายและยังมีจำนวนมาก
.
การเก็บใบตองตึงมาไพจะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน เป็นช่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเริ่มแห้งแล้งมาก ทำให้ใบตองตึงมีใบที่แห้งกรอบตกเกลื่อนผืนป่า ราษฎรก็จะออกเก็บใบตองตึงมาไพนำไปสร้างที่พักอาศัย หรือกระท่อม หรือบางคนที่มาซื้อก็เอาไปทำโรงรถบ้าง ซุ้มน้ำบ้าง นอกจากการเก็บใบตองตึงขายเป็นอาชีพเสริมแล้วยังเป็นการลดปริมาณเชื้อเพลิงเศษไม้ใบหญ้าแห้งซึ่งเป็นต้นเหตุของไฟป่าได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย